ปีแยร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ (Pierre-Auguste Renoir)
(25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2383 - 3 ธันวาคม พ.ศ.2462)
ปีแยร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ เกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1841ที่เมืองไลโมจ (Limoges) ประเทศฝรั่งเศส ครอบครัวย้ายมาที่ปารีสตั้งแต่เขายังเล็ก
เรอนัวส์ฉายแววรักศิลปะตั้งแต่เด็กและเขามีโอกาสได้เข้าไปฝึกงานที่โรงงานทำตุ๊กตาดินเผาเคลือบสี หลังจากโรงงานเลิกกิจการเขาได้ช่วยพี่ชายวาดภาพตกแต่งพัด ในวัยเด็กเรอนัวร์มักจะเข้าไปชมงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์อยู่เสมอ เขาชื่นชอบผลงานของศิลปินฝรั่งเศสในอดีตหลายคน เช่น วาโต บูแชร์ และฟราโกนาร์ด
ระหว่างปี 1870 ระหว่างเกิดการเคลื่อนไหวอันสำคัญของศิลปินหัวก้าวหน้าที่ต้องการบันทึกเรื่องราวในสังคมที่เกิดในปัจจุบันและใช้สีสันที่สดใสกว่าภาพของศิลปินในอดีต โดยการนำของศิลปินรุ่นพี่ที่สำคัญอันได้แก่ มาเนและกูรเบท์
ในปี 1862 เรอนัวร์ตัดสินใจเข้ามาศึกษาศิลปะอย่างจริงจังที่สถาบันศิลปะ ดิเอธิเลียเกลอร์ (TheAtelier Gleyre) เขาได้รู้จักกับเพื่อนร่วมสถาบันได้แก่ โมเน ซิสลี และบาซิลี ภายหลังได้รวมตัวกันลาออกจากสถาบันศิลปะ เพื่อศึกษาแนวทางศิลปะตามความเชื่อของตัวเอง
ผลงานของเรอนัวร์ระยะแรกได้รับิอิทธิพลจากศิลปินรุ่นพี่คือกูรเบท์และมาเน เรอนัวร์รับเทคนิคการวาดภาพด้วยใบมีดจากกูรเบท์ ภายหลังเขาได้พัฒนาผลงานเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ในปี 1860
เรอนัวร์ ไม่ใช่คนฐานะดี เขาไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จะซื้อสีสำหรับวาดภาพ ระหว่างปี 1866 -1867 ผลงานของเขาถูกปฏิเสธจากกรรมการซาลอง แต่เขาก็ไม่เคยละความพยายาม เขาพัฒนาเทคนิคการวาดภาพโดยการศึกษาจากศิลปินรุ่นพี่อีกหลายคน เช่น เดอลากรัว และกามีร์โกโร โดยเฉพาะเทคนิคของเดอลากรัวเห็นชัดเจนจากภาพของเขาชื่อ โอดาลิสก์ (Odalisque, 1870)
ในปี 1869 เรอนัวร์ออกไปวาดภาพนอกสถานที่เคียงคู่กับโมเนที่สถานตากอากาศริมแม่น้ำเซน ผลงานยุคนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่ประทับใจนักวิจารณ์ศิลปะชื่อ โฟเบ พูล (Phoebe Pool) โฟเบได้เขียนบันทึกไว้ว่า "เรอนัวร์และโมเนได้ค้นพบว่าในเงามืดไม่ได้เป็นสีน้ำตาลหรือสีดำอย่างที่ศิลปินในอดีตเคยวาด แต่เป็นสีที่เกิดจากสีแวดล้อม แต่สีในตัววัตถุย่อมเปลี่ยนแปลงตามแสงที่เรามองเห็น ซึ่งเกิดจากการสะท้อนจากสีในวัตถุอื่น ๆ หรือเกิดจากการตัดกันของสีข้างเคียง"
The Swing and The Ball at The Moulin De Galette
ภาพวาดที่มีราคาแพงเป็นอันดับ 2 ของโลก
มูลค่าประมาณ $110,420,000
ผลงานของ Pierre Auguste Renoir
ปี 1874 เรอนัวร์ได้ร่วมแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ร่วมกับเพื่อนศิลปินคนอื่น ๆ และตั้งแต่ปี 1870 เป็นต้นมา ผลงานของเรอนัวร์ก็ได้รับความสนใจจากนักสะสมหลายคน เขาเริ่มขายผลงานได้และยังรับวาดภาพครอบครัวของนักสะสมเหล่านี้หลายภาพ เช่น ภาพของครอบครัวชาร์เพนเทียร์ (The Charpentiers) ระหว่างนี้เรอนัวร์ได้สร้างผลงานที่บันทึกชีวิตผู้คนในอิริยาบทที่กำลังพักผ่อน หรือกำลังรื่นเริงตามสถานบันเทิง ภาพที่โด่งดังและรู้จักกันมากที่สุดคือภาพชื่อ งานบอลล์ที่มูแลงเดอกาเล (The Swing and The Ball at The Moulin de Gallette) เรอนัวร์ได้แสดงภาพความงดงามของผู้คนในงานรื่นเริงเหล่านี้โดยเฉพาะภาพผู้หญิงสวยที่อวดเนื้อหนังที่ขาวอวบสมบูรณ์งดงาม
ตั้งแต่ปี 1880 เป็นต้นมา เรอนัวร์พยายาพัฒนาสไตล์การวาดภาพของตัวเองให้แปลกไปกว่าการวาดภาพแบบอิมเพรสชั่นนิสม์แบบเดิมๆ ภาพระยะหลังส่วนใหญ่เป็นภาพผู้หญิงที่เน้นรูปทรงและเส้นรอบนอกที่ชัดเจนซึ่งเขาได้รับอิทธิพลจากศิลปะแนวคลาสิกโดยเฉพาะผลงานของราฟาเอลซึ่งเรอนัวร์เกิดความชื่นชมภาพวาดเหล่านั้นภายหลังที่ได้เดินทางไปชมงานที่อิตาลี ผลงานในยุคสุดท้ายภายหลังปี1880 เป็นต้นมา ผลงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความงามของสตรีเพศในอิริยาบทต่าง ๆ เช่น ภาพผู้หญิงเปลือย ภาพผู้หญิงอาบน้ำ ผู้หญิงอ่านหนังสือ ผลงานในยุคนี้ทำให้เรอนัวร์ประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั้งทางด้านชื่อเสียงและทางการเงิน
ผลงานภาพวาดของเรอนัวร์ หลังปี 1903 มีลักษณะภาพวาดฝีแปรงหยาบ รูปทรงของผู้หญิงมีทรวดทรงอวบอ้วนเกินพอดี สาเหตุมาจากเขาป่วยด้วยโรคไขข้ออักเสบจนมือไม่สามารถจับพู่กันได้ เขาจึงต้องใช้เศษผ้ามามัดพู่กันกับมือไว้ขณะวาดภาพ
เรอนัวร์เสียชีวิตวันที่ 3 ตุลาคม 1919 ที่เมืองคาเยสเซอร์เมอร์ เรอนัวร์เป็นศิลปินที่มีความมุ่งมั่นและความพยายามต่อสู้เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ อีกทั้งเป็นคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อความยากจนและความเจ็บป่วย เขาเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จและเป็นคนที่น่ายกย่องอีกคนหนึ่งของโลก
ภาพวาด มาดามยอร์จ ชาร์เพนเทีย
Madame Georges Charpentier
รัฐบาลฝรั่งเศสซื้อผลงานของเขาที่ชื่อ มาดามยอร์จ ชาร์เพนเทีย มาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ตั้งแต่เขายังมีชีวิตอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น