วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คำถามยอดฮิตของการเรียนต่อฝรั่งเศส

FAQ คำถามยอดฮิตของการเรียนต่อฝรั่งเศส

  • Study in France.jpg
FAQ ABOUT STUDY IN FRANCE
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเรียนต่อฝรั่งเศส
1) อยากเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ทักษะภาษาฝรั่งเศสยัง beginner อยู่เลย จะเรียนต่อได้มั้ย
การไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสสามารถเรียนหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษได้เช่นกัน เฉกเช่นเดียวกับการที่เราไปเรียนที่ประเทศอื่นๆที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ เช่นจีน ญี่ปุ่น เยอรมันนี เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ดังนั้นการไปฝรั่งเศสเป็นการเปิดโลกทัศน์ของการการศึกษาต่อยุโรปที่ยอดเยี่ยมมาก และสามารถเลือกเรียนภาคภาษาอังกฤษได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาทางด้านบริหารธุรกิจและการจัดการ การท่องเที่ยวการโรงแรม และแฟชั่นดีไซน์


2) ถ้าไปเรียนต่อโททางด้าน MSc in International Luxury & Brand Management ต้องเตรียมบัดเจ็ทเท่าไหร่
สาขาที่คุณถามมีสอนเป็นภาคภาษาอังกฤษ ค่าเรียนจะอยู่ราวๆ 16000 EUR หรือประมาณหกแสนบาท ส่วนค่าครองชีพประมาณสามหมื่นบาทต่อเดือนหรือ 800 ยูโร สำหรับการเรียนปอโทที่ฝรั่งเศส 1 ปี แนะนำว่าบัดเจ็ทราวๆเก้าแสนหรือไม่เกินหนึ่งล้านบาทก็เพียงพอต่อค่าเรียนและค่าครองชีพหนึ่งปี
3) ลังเลอยู่ว่าจะไปต่อปอตรีทางด้านแฟชั่นดีไซน์ที่อังกฤษหรือฝรั่งเศสดี ตัดสินใจไม่ถูกเลย เพราะชอบทั้งสองประเทศ
โดยภาพรวมมาตรฐานการเรียนการสอนของทั้งสองประเทศน่าจะใกล้เคียงกัน ถ้าคุณชอบทั้งสองประเทศให้ลองลิสต์รายการมาว่าแต่ละประเทศมีข้อดีอย่างไร แล้วประเทศไหนจะตอบโจทย์เป้าหมายการศึกษาต่อหรือ career path ในสาขาแฟชั่นดีไซน์ได้มากกว่ากัน โดยทั่วไปนักศึกษาต่างชาติทั่วโลกจำนวนมากเลือกประเทศฝรั่งเศส เพราะเป็น reference ที่ดีของการได้มาเรียนที่เมืองหลวงแฟชั่นของโลกซึ่งนำไปสู่เส้นทางการเป็นดีไซน์เนอร์หรือผู้ประกอบการทางด้านธุรกิจแฟชั่นหรือการบริหารแบรนด์หรูและเป็นที่ยอมรับในวงการ แม้นกระทั่งนักศึกษาชาวอเมริกันและนักศึกษาชาวอังกฤษก็เลือกมาเรียนที่ฝรั่งเศสมากกว่าที่นิวยอร์กหรือลอนดอนเช่นกัน
4) ในระหว่างเรียนสามารถทำงานได้มั้ย
ตามกฎหมายฝรั่งเศส นักศึกษาสามารถทำงานได้ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ทั้งนั้นการมาศึกษาต่อที่ฝรั่งเศสจะเน้นเรียนและนำความรู้วิชาการและการมีประสบการณ์จากการฝึกงาน การสนับสนุนการศึกษาของประเทศฝรั่งเศสไม่ได้เน้นที่ study & work ในเวลาเดียวกันเหมือนบางประเทศ ดังนั้นแนะนำว่าคุณควรมีบัดเจ็ทให้พร้อม การได้มีโอกาสทำงานพิเศษเป็นเหมือนของขวัญที่ทำให้คุณได้ pocket money เล็กๆน้อยๆ และได้ประสบการณ์การทำงานและการเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมมากกว่า
5) จริงมั้ยที่บอกว่าการไปเรียนต่อฝรั่งเศสต้องปรับตัวเยอะมาก
ก็เห็นจะจริง (หัวเราะ) เพราะจาก feedback ของนักศึกษาไทยหลายๆคนที่ไปเรียนต่อดูจะผจญความวุ่นวาย ความยุ่งยาก ความงี่เง่าของระบบฝรั่งเศสพอสมควร เช่น บางหอพักนักศึกษาต้องใช้ห้องน้ำรวมหญิงชาย เจ้าหน้าที่ฝ่าย immigration ดุและราชการมาก คนขายของบางร้านไม่พูดภาษาอังกฤษเลย ฯลฯ แต่นั่นคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้จริงๆที่หาไม่ได้จากประสบการณ์ชีวิตนักศึกษาที่เมืองไทย ทั้งนี้ทั้งนั้นประเทศฝรั่งเศสมีข้อดีอื่นๆมากมาย ที่ประเทศไทยเราหรือประเทศยอดฮิตของการเรียนต่ออย่าง อังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย ไม่มี ก็คือระบบสวัสดิการสังคมที่นักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสหรือต่างชาติจะได้รับเงินช่วยเหลือที่พักนักศึกษา 30% จากรัฐบาล รวมถึงส่วนลดหย่อนต่างๆให้กับนักเรียนนักศึกษา อาทิค่ารถเมล์ รถไฟ สถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งความประทับใจอื่นๆที่ฝรั่งเศส อาทิ ระบบขนส่งมวลชนที่น่าทึ่งและตรงเวลามาก อาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์ คอนเนคชั่นกับนักศึกษาฝรั่งเศสและนักศึกษาต่างชาติมากมาย ประสบการณ์การฝึกงานที่ประเทศฝรั่งเศส กิจกรรมวัฒนธรรมและ teambuilding ในหมู่เพื่อนนักศึกษา การได้มีโอกาสไป company visits ในฝรั่งเศสและในยุโรป เป็นต้น
6) สมัครเรียนหลายที่ได้มั้ย
แนะนำว่าให้คุณศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรและสถาบันต่างๆก่อน และเลือกสมัครเรียนในสถาบันที่คุณมั่นใจและอยากไปเรียนมากที่สุดก่อน เพราะการสมัครแต่ละสถาบันมีค่าสมัครด้วยประมาณ 90 -150 ยูโร และแทบทุกสถาบันส่วนใหญ่จะมีสอบสัมภาษณ์ทาง skype หรือโทรศัพท์กับทาง program manager ด้วย ดังนั้นเราไม่แนะนำให้คุณหว่านสมัครไว้เยอะๆ เพราะเป็นการเสียเงินค่าสมัครหลายที่ และเปลือง effort เกินไปโดยใช้เหต และ program manager แต่ละหลักสูตรของแต่ละสถาบันมีความคาดหวังในตัวผู้สมัครเรียนต่อสูงและเขาต้องอุทิศเวลาเพื่อมาสอบสัมภาษณ์คุณ  ในกรณีที่ได้รับการตอบรับและสุดท้ายไม่เลือกศึกษาต่อที่สถาบันนั้นๆ ยกเว้นว่ามีเหตผลจำเป็นจริงๆ ตัวผู้สมัครเองจะดูไม่ดีอย่างแรงในระบบระเบียบการศึกษาต่อของยุโรป (เปรียบประดุจว่าคุณไม่มีความตั้งใจหรือจริงจัง) ดังนั้นให้เลือกสมัครกับสถาบันที่อยากเรียนมากที่สุดก่อน ถ้าสมมุติไม่ได้รับการตอบรับจริงๆ ค่อยส่งเอกสารการสมัครให้กับทางสถาบันที่สอง หรือที่สามตามลำดับ (หากไม่ได้รับการตอบรับ) ทางกลุ่มเรียนต่อฝรั่งเศสเชื่อว่าหากคุณศึกษาข้อมูลมาอย่างดีและเตรียมตัวสมัครอย่างดีเยี่ยมแล้ว คุณย่อมได้รับการตอบรับจากหนึ่งในสถาบันฝรั่งเศสแน่นอน
7) มีญาติอยู่ที่เมือง Limoges อยากให้ช่วยแนะนำสถาบันภาษาที่เมืองนี้ด้วย ตัดสินใจแล้วว่าปักหลักที่นี่
ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าการมีญาติอยู่ที่ฝรั่งเศสไม่ได้เกี่ยวกับ project studies หรือแผนการเรียนต่อของคุณ สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญคือ คุณอยากเรียนต่ออะไรหลังจากเรียนภาษาแล้ว สถาบันไหนบ้างที่มีหลักสูตรที่คุณต้องการ และคุณต้องเตรียมตัวอะไรบ้างสำหรับการลงทะเบียน รวมทั้งบัดเจ็ทสำหรับค่าเรียนและค่าครองชีพ หลังจากที่ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว คุณจะรู้เองว่าต้องเรียนภาษาและต่อยอดการเรียนต่อปอตรี โท หรือเอก ที่สถาบันไหนหรือเมืองอะไร ซึ่งอาจจะเป็นเมืองที่คุณมีญาติอยู่พอดีก็โอเคไป แต่ถ้าบางสาขาที่คุณอยากเรียนไม่ได้อยู่ในเมืองที่คุณมีญาติอยู่ คุณควรจะเปิดใจให้กว้าง โดยไปเรียนที่เมืองอื่นๆที่ตอบโจทย์เป้าหมายการศึกษาต่อของคุณ ประเด็นนี้ใช้ได้กับนักศึกษาฝรั่งเศสเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หลักสูตรปอโททางด้านการจัดการศิลปะของฝรั่งเศส (DESS Management des Arts de La France) มีเปิดสอนไม่กี่ที่คือบางมหาวิทยาลัยในปารีส และที่มหาวิทยาลัยอองเชร์ (Université d'Angers) นักศึกษาจากเมืองอื่นๆ เช่น Grenoble, Montpellier, Paris, etc ต่างก็เลือกมาเรียนต่อที่เมืองอองเชร์เช่นกัน ด้วยเหตผลเดียวว่าที่มหาวิทยาลัยนี้มีหลักสูตรปอโททาง ด้านการจัดการศิลปะของฝรั่งเศส พวกเขาต้องย้ายเมืองและมาอยู่หอพักนักศึกษาที่อองเชร์เพื่อเรียนหลักสูตรนี้
8) อยากมีประสบการณ์การไปเรียนต่างประเทศในสาขา MBA ดูไว้เยอะเลยทั้งที่อเมริกา อังกฤษ เยอรมันนี และฝรั่งเศส ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกที่ไหน
การเลือกประเทศเป็นอีกปัจจัยนึงต่อการศึกษาต่อต่างประเทศซึ่งความรู้วิชาการประเทศดังกล่าวน่าจะมีมาตรฐานและคุณภาพใกล้เคียงกัน โดยทั่วไปนักศึกษาที่เลือกไปฝรั่งเศสจะมีความรักความชอบในประเทศฝรั่งเศสแสนสวยแห่งนี้ อยากอยู่ที่ยุโรปซึ่งเป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรมด้วย แม้นจะพูดภาษาฝรั่งเศสได้น้อยนิดมากก็ตาม เพราะพวกเค้าส่วนใหญ่เลือกเรียนต่อโปรแกรมอินเตอร์ หรือหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษอยู่แล้ว  และการได้สัมผัสไลฟ์สใตล์ในแบบชีวิตนักศึกษาที่ฝรั่งเศสต่างหากเล่า คือสิ่งที่เติมเต็ม student life ของพวกเค้า หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดคล้ายๆแบบนี้ค่อนไปมากกว่า 50% ตัดสินใจเลือกเรียนฝรั่งเศสเถอะ แล้วจะไม่ผิดหวัง :) 
9) ถ้าเรียนต่อสาขากฎหมายที่ฝรั่งเศส ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
แน่นอนสาขากฎหมายส่วนใหญ่สอนภาคภาษาฝรั่งเศส คุณต้องมีผลสอบภาษาฝรั่งเศส DELF B2 ขั้นต่ำมายื่นสำหรับการสมัคร หรือบางสถาบันควรมีผลสอบภาษาฝรั่งเศส เลเวล C1 มายื่นจะเห็นว่า require สูงมาก การเตรียมความพร้อมภาษาฝรั่งเศสของคุณสามารถเริ่มที่เมืองไทยจนกระทั่งไปถึงประเทศฝรั่งเศส แม้นว่าคุณจะได้ B2 หรือ C1 มาจากเมืองไทยแล้วก็ตาม และพร้อมจะกระโดดเข้าคลาสปอโทกฎหมายในวันแรกของการเรียนได้เลย เราแนะนำว่าคุณควรไป warm up เรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมที่สถาบันภาษาในฝรั่งเศสก่อนเปิดเทอมปอโทอย่างน้อยๆ 1 เทอมหรือหกเดือนก็ยังดี เพราะชั้นเรียนปอโทที่โน่นจะหนักมาก และเลคเชอร์เร็วมาก อาจารย์ที่โน่นไม่สนใจว่าคุณเป็นนักศึกษาต่างชาติและจะพูดช้าๆชัดให้คุณเข้าใจ อาจารย์จะเลคเชอร์ปกติ ประหนึ่งคุณเป็นคนฝรั่งเศส หน้าที่ของคุณคือตามเลคเชอร์และทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่ในห้องเรียนให้ทัน ซึ่งเป็นภาวะที่ลำบากมากสำหรับคนที่ไปถึงฝรั่งเศสใหม่ๆและไม่ได้เก็บชั่วโมงเรียนภาษาฝรั่งเศสที่สถาบันภาษาในฝรั่งเศสเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างสมบูรณ์​ ดังนั้นการเรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มเติมที่สถาบันภาษาที่ฝรั่งเศสด้วยจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจและมีความยืดหยุ่นของเลคเชอร์ที่มีความเป็นฝรั่งเศสจัดๆได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง สำหรับสาขาอื่นๆหลักสูตรภาคภาษาฝรั่งเศสก็ตาม ถ้าใครมีเลเวลภาษาแค่ B1 เราแนะนำให้ไปเรียนภาษาเพิ่มเติมที่ฝรั่งเศสเลยอย่างน้อยหนึ่งปี รับรองว่าคุณจะแฮ้ปปี้กับคลาสปอโทฝรั่งเศส เพราะคุณคุ้นเคยและเคยชินแล้วกับภาษาฝรั่งเศสแบบจัดหนักดังกล่าว ที่สำคัญเทอมแรกของการเรียนในแบบเลคเชอร์ของภาษาฝรั่งเศสจะโหดมาก แต่หลังจากนั้นคุณจะชินและเกิดอาการปรับตัวได้โดยอัติโนมัติ เทอมต่อไปของการเรียน French program จะเป็นเรื่องสบายๆสำหรับคุณเลย
10) เพิ่งจบปอตรีวิศวะมาหมาดๆ และอยากต่อโทบริหารทางด้าน Global Business Management (English track) ที่ฝรั่งเศส จะเป็นไปได้มั้ย
เนื่องจากว่าหลักสูตรปอโททางด้าน Global Business Management จะค่อนข้างประยุกต์กับนักศึกษาที่จบปอตรีมาแล้วหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรรมศาสตร์ อักษรศาสตร์ รัฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือสาขาอื่นๆนอกเหนือจากบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะได้มีโอกาสตอบรับให้เรียนในสาขานี้ สำคัญคือคุณต้องมีผลภาษาอังกฤษที่แข็งแรงด้วย (TOEIC 750 หรือ IELTS 6.5 ขั้นต่ำ) และแสดง motivation อย่างแรงกล้าและชัดเจนว่าการเรียนหลักสูตรจะทำให้คุณได้ dual competency จากสาขาวิศวะยังไง และประโยชน์ของหลักสูตรที่จะต่อยอดเส้นทางการทำงานของคุณหลังจากเรียนจบ ถ้าคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ ทางสถาบันในฝรั่งเศสก็ไม่ปฏิเสธที่จะตอบรับให้คุณได้เข้าศึกษาต่อในสาขานี้เช่นกัน
11) ประเทศฝรั่งเศสมีอะไรน่าเรียนบ้างครับ
ประเทศฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมานานกว่าประเทศไทยและอีกหลายๆประเทศในโลก ดังนั้นความก้าวหน้าทางวิชาการด้านการศึกษาจึงมีทางเลือกที่มากมายและหลากหลาย ซึ่งถ้าคุณคิดจะเลือกเรียนสาขาใดสาขาหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสแล้ว คูณจะแก่นความรู้ของสาขาวิชานั้นๆอย่างถึงรากลึก ซึ่งจะทำให้คุณนำมาใช้ในอาชีพ และปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของการทำงานแบบยุโรปๆได้
จากคำถามว่าอะไรน่าเรียนบ้าง ขอตอบว่ามีอะไรที่น่าสนใจให้เรียนมากมายมรประเทศฝรั่งเศส แต่ต้องหันกลับไปถามตัวผู้เรียนเองว่า "คุณหล่ะ มีความสนใจอยากเรียน และได้ความรู้อะไรบ้าง" 
 
สถาบันการศึกษาในประเทศฝรั่งเศส ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก มีชื่อเสียงหรือไม่มีก็ตาม จะรับคุณเข้าเรียนได้ ก็ต่อเมื่อคุณแสดงเจตจำนงค์ให้กรรมการเห็นอย่างชัดเจนว่าคุณสนใจที่จะสมัครเรียนสาขาด้านนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าคุณอาจจะมีเกรดเฉลี่ยจากเมืองไทยไม่ค่อยสูงนักก็ตาม ดังนั้นถ้าคิดจะเรียนต่อประเทศฝรั่งเศสจริงๆ กรุณาวางแผนการศึกษาของคุณสักนิด ก่อนมาสอบถามฝ่ายแนะแนว แล้วคุณก็จะได้คำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตทางการศึกษาของคุณกลับไป
 
12) อยากเรียนต่อด้านนิติศาสตร์และรัฐศาตร์ ไม่ทราบว่ามหาวิทยาลัยไหนมีชื่อเสียงด้านนี้คะ ได้ยินว่ามหาวิทยาลัย Sorbonne มีชื่อเสียงระดับโลก เข้าเรียนยากมั้ย
 
มหาวิทยาลัยในฝรั่งเศสทั้งหมดกว่า 87 มหาวิทยาลัยเป็นของรัฐบาลทั้งสิ้น และไม่มีการจัดลำดับความมีชื่อเสียงแต่อย่างใด มหาวิทยาลัยทุกแห่งได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศฝรั่งเศส  มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ (SORBONNE) เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส และแห่งหนึ่งของโลก จึงไม่น่าแปลกที่คนไทยจะได้ยินชื่อมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์กันบ่อยครั้ง เมื่อพูดถึงการเรียนต่อกฎหมาย รัฐศาสตร์หรือด้านอื่นๆในประเทศฝรั่งเศส  ถ้าคุณคิดจะเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส ก่อนอื่นคุณควรจะรู้ว่าจะเรียนสาขาไหน เพื่อหาสถาบันการศึกษาในฝรั่งเศสว่ามีที่ไหนที่สอนสาขานี้ เช่นถ้าเป็นสาขาด้านนิติศาสตร์  มีมหาวิทยาลัยไหนบ้างเปิดสอนสาขานี้ ดังนั้นการจะเลือกเรียนต่อ สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงมากที่สุด ไม่ใช่ความมีชื่อเสียงของสถาบัน แต่ควรให้ความสำคัญกับความรู้ที่คุณจะได้มากกว่าว่าที่ไหนเปิดสอนด้านที่คุณสนใจ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น