ซิมบับเว (อังกฤษ: Zimbabwe) มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐซิมบับเว (อังกฤษ: Republic of Zimbabwe) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ทวีปแอฟริกา อยู่ระหว่างแม่น้ำซัมเบซีและแม่น้ำลิมโปโป มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับประเทศแซมเบีย ทิศตะวันออกติดกับประเทศโมซัมบิก ทิศตะวันตกติดกับประเทศบอตสวานา และทิศใต้ติดกับประเทศแอฟริกาใต้ มีพื้นที่ประเทศ 390,580 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงคือ กรุงฮาราเร
- เดิมทีก่อนช่วงปี ค.ศ.1980 ที่ประเทศซิมบับเวยังใช้สกุลเงินโรดีเซียดอลลาร์(Rhodesian Doallar)
- จนกระทั้งในปี 1980 ประเทศซิมบับเวประกาศใช้สกุลเงินของตอนเอง เป็นสกุลเงิน ดอลลาร์ซิมบับเว แทน โรดีเซียดอลลาร์ ด้วยอัตรา 1ดอลลาร์ซิมบับเว = 1โรดีเซียดอลลาร์
- เนื่องจากความวุ่นวายภายในประเทศ ปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนัก ค่าเงิน ดอลลาร์ซิมบับเว ก็อ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง
- ถึงแม้ทางรัฐบาลจะออกมา ประกาศใช้สกุลเงินใหม่ อีกถึง 3 ครั้งในปี 2006, 2008 และ 2009 พิมพ์ธนบัตรใหม่เพิ่มเลขศูนย์ต่อท้ายกันเป็นว่าเล่น เพื่อชาวบ้านจะได้ไม่ต้องพกเงินกันทีเป็นปึก จนธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดนั้นมากถึง 100,000,000,000,000 (ร้อยล้านล้านดอล์ลาร์ซิมบับเว)
- ถึงรัฐบาลซิมบับเวจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเสื่อม ด้อยค่าของสกุลเงินของตนเองได้ จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2009 ต้องใช้เงิน 3 ร้อยล้านล้านดอลลาร์ซิมบับเว เพื่อแลกเงิน ดอลลาร์สหรัฐได้แค่1เหรียญ
- จนกระทั้งในวันที่ 12 เมษายน 2009 เงินดอลลาร์ซิมบับเว ก็ถูกยกเลิกการใช้อย่างไม่มีกำหนด และใช้สกุลเงิน ยูโร(Euro) ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ เงินแรนด์แอฟริกาใต้ และ เงินพูลาบอตสวาน ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็น สกุลเงินอย่างเป็นทางการทดแทน
- ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2009 แบงค์มูลค่า 100,000,000,000,000 (ร้อยล้านล้านดอล์ลาร์ซิมบับเว) ใบนี้มีมูลค่าเพียง 1 เหรียญสหรัฐ เมื่อไปถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์2009(ประมาณ15วันต่อมา)ต้องใช้แบงค์นี้3ใบ แลก
- เงิน1เหรียญสหรัฐ และหลังจากนั้นไม่กี่วันมันก็กลายเป็นเศษกระดาษไร้ค่า
น้ำตกวิกตอเรีย ความงามดุจสวงสวรรค์จากธรรมชาติ ณ แอฟริกา
น้ำตกวิกตอเรีย (Victoria Falls) หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในโลก ความมหัศจรรย์จากธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Zambezi ระหว่างประเทศแซมเบียและประเทศซิมบับเว ทวีปแอฟริกา ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้สามารถเทียบได้กับน้ำตกไนแองการาและน้ำตกอีกวาซูได้เลย โดยน้ำตกวิกอเรียมีความสูงถึง 108 เมตร กว้าง 1,800 เมตร เป็นน้ำตกที่ไม่ได้กว้างและไม่ได้สูงที่สุดในโลก แต่ที่มันมีแอ่งน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลกแน่นอน น้ำตกวิตอเรียมีชื่อในท้องถิ่นว่า Mosi-oa-Tunya ที่แปลว่า หมอกควันจากสายฟ้า น้ำตกแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยสุดยอดและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา คุณจะได้ยินเสียงน้ำตกไหลซู่ซ่าตั้งแต่ระยะทาง 40 กิโลเมตร และจะได้เห็นสายหมอกจากละอองน้ำตกตั้งแต่ระยะ 50 กิโลเมตร สร้างความรู้สึกตื่นเต้นก่อนที่จะได้เห็นของจริงซะอีก นอกจากนี้จุดเด่นอีกแห่งของน้ำตกคือสะพานที่เชื่อมระหว่างหน้าน้ำตกทั้งสอง เรียกว่า “สะพานน้ำตกวิกตอเรีย” เป็นทางเชื่อมชายแดนของน้ำตกวิกตอเรียฝั่งประเทศซิมบับเวย์และน้ำตกฟวิงสโตนฝั่งประเทศแซมเบีย คุณจะได้ขับรถข้ามเหวน้ำตกท่ามกลางละอองน้ำและได้เห็นวิวที่สวยงามสร้างอรรถรสในการขับขี่รถยนต์ น้ำตกวิกตอเรียเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวสามารถรื่นรมย์กับธรรมชาติได้อย่างเพลิดเพลิน ฟังเสียงน้ำตกกระหึ่มหัวใจ และถ้าใครใจกล้าน้ำตกยังมีไฮไลท์เด็กคือ “สระปีศาจ” สระน้ำธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนขอบเหวของน้ำตกซึ่งมีความอันตรายไม่น้อยเพราะกระแสน้ำสามารถพัดพาคุณลงไปได้เพียงไม่กี่วินาที แต่อย่างไรก็ตามยังมีนักท่องเที่ยวใจกล้ามากมายที่เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การว่ายน้ำสุดตื่นเต้นแบบนี้ โดยทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 300,000 คนเดินทางเที่ยวชมน้ำตกวิกตอเรียสวรรค์บนดิน ณ ซิมบับเว
เกรทซิมบับเว(Great Zimbabwe)
เกรท เกรท ซิมบับเว (Great
Zimbabwe) ถ้าไม่นับมหาพีระมิดที่เมืองกีซ่าในประเทศอียิปต์
นักประวัติศาสตร์จะถือว่า เกรท ซิมบับเว เป็นเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดทางตอนใต้ของแอฟริกา
และยังเป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรมความเจริญในภูมิภาคนี้ เกรท ซิมบับเว
ถูกสร้างขึ้นราว พ.ศ. 1700 ในยุครุ่งเรืองที่สุดของชนเผ่าโชนา เผ่าพื้นเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของซิมบับเว
หลังจากนั้นอีก 700 ปี เมืองนี้ก็ได้เสื่อมอำนาจลง คำว่า ซิมบับเว (Zimbabwe)
เรียกอีกอย่างเป็นภาษาโช-นาว่า Dzimba Dza Mabwe หมายถึง The House of Stone หรือ บ้านหิน
และต่อมาคงถูกเรียกให้ง่ายขึ้นเป็นแค่ ซิมบับเว (Zimbabwe) เกรท
ซิมบับเว อยู่ที่การก่อสร้างที่ใช้หินล้วน ๆ โดยการนำหินโดราไลท์ ซึ่งมีน้ำหนักและความแข็งสูงกว่าหินทั่วไป
ซึ่งถ้าเราลองเอาหินชนิดนี้เคาะกันดูจะได้ยินเสียงดังกังวาลเหมือนเอาชิ้นโลหะมาเคาะกันเอง
หินแต่ละก้อนจะถูกนำมาสกัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แล้วนำมาวางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ
โดยไม่มีการต่อเชื่อมด้วยซีเมนต์หรือวัสดุอื่นใดทั้งสิ้น อายุของหินแต่ละก้อนไม่ต่ำกว่า
800 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น